การตรวจสอบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในบัญชีธนาคารของชาวอเมริกันก่อนสิ้นปีอาจช่วยเพิ่มความยินดีให้กับผู้ค้าปลีกในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ตามการศึกษาใหม่
หากไม่มีการกระตุ้นจากรัฐบาลเพิ่มเติมผู้บริโภค 37% กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินน้อยลงในช่วงวันหยุดในขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่วางแผนที่จะใช้จ่ายของขวัญมากขึ้นจากการศึกษาของFranklin Templeton-Gallup Economics of Recoveryพบ
อย่างไรก็ตามหากมีการจ่ายเงินกระตุ้นมูลค่า 1,200 ดอลลาร์เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่วางแผนจะใช้จ่ายน้อยลงเหลือ 30% ในขณะที่ผู้ที่วางแผนจะหาเงินจากของขวัญเพิ่มขึ้นถึง 22% ตามการสำรวจซึ่งอ้างอิงจากการตอบกลับทางออนไลน์ จำนวน 5,002 คนตั้งแต่ 1 ต.ค. ถึง 9 ต.ค.
หลังจากที่รัฐบาลออกเช็คหลายล้านฉบับให้กับผู้บริโภคซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจบรรเทาทุกข์มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนจากการซื้อเฉพาะสิ่งจำเป็นเช่นร้านขายของชำและอุปกรณ์อาบน้ำเพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และสินค้าปรับปรุงบ้าน
แต่การเพิ่มขึ้นชั่วคราวนั้นจางหายไปส่วนใหญ่การว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงและชาวอเมริกันจำนวนมากพยายามจัดงบประมาณเพื่อให้ผ่านช่วงเทศกาลวันหยุดเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิถีการแพร่ระบาดของโรคระบาด
สมาชิกพรรคเดโมแครตชั้นนำในสภาคองเกรสกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการติดเชื้อโควิด -19 ในสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดความเร่งด่วนในการเรียกเก็บเงินบรรเทาทุกข์ใหม่
อเมริกาบันทึกผู้ป่วยโควิดใหม่มากกว่า 150,000 รายเมื่อวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเมื่อประมาณเก้าเดือนที่แล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Lori Lightfoot นายกเทศมนตรีเมืองชิคาโกขอให้ประชาชนยกเลิกแผนวันขอบคุณพระเจ้าและอยู่บ้านเว้นแต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องไปทำงานหรือไปโรงเรียนหรือไปเที่ยวที่สำคัญเช่นไปร้านขายของชำ
นักวิเคราะห์กล่าวว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับฝ่ายนิติบัญญัติที่จะผ่านกฎหมายบรรเทาการแพร่ระบาดใด ๆ ก่อนวันเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมดูเหมือนว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ไม่ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกซึ่งโต้แย้งผลการเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนประธานาธิบดี – เลือกJoe Bidenได้ระบุความช่วยเหลือของ coronavirus เป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาให้ความสำคัญสูงสุดเมื่อเขาเข้าสู่ตำแหน่ง ความช่วยเหลือนั้นอาจไม่มาเร็วพอที่จะช่วยวันหยุด