การเลือกเต็นท์ขายของให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เวลาเราเดินตลาดจะสังเกตเห็นซุ้มต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากแล้วไม่ว่าตลาดที่ไหนก็จะใช้ลักษณะการตกแต่งที่คล้ายๆกันโดยมีแผงในการวางขายสินค้าต่างๆและที่สำคัญขาดไม่ได้เลย คือ เต็นท์ขายของซึ่งเป็นตัวกันแดดกันฝนให้ทั้งผู้ที่มาเดินซื้อของในตลาดและยังกันแดดให้กันฝนให้แก่พ่อค้าแม่ค้าอีกด้วย

เต็นท์ขายของนั้นมีหลายขนาดและหลายประเภทเช่น ขนาด 3×3เมตร 3×6เมตร ตัวขาของเต้นจะประกอบไปด้วยขาเหล็กที่เป็นตัวรั้งผ้าใบของเต้นท์ไว้ไม่ให้โคลงเคลง สำคัญมากเวลาที่มีลมแรงๆถ้าตัวขาของเต็นท์ไม่แข็งแรงอาจทำให้ร้านพังได้ โดยส่วนมากแล้วเมื่อก่อนนี้ตัวขาของเต็นท์ขายของจะใช้เป็นท่อแปปในการทำเป็นโครงซึ่งปัจจุบันบางร้านก็ยังใช้อยู่แต่ในทางที่ดีแล้วควรใช้เฉพาะในร่มเท่านั้น

เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีลมแรงหรือด้านนอกควรใช้ขาเต็นท์ที่เป็นเหล็กแข็งแรงเพื่อสามารถต้านทานแรงลมได้และไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นในภายหลัง ตัวผ้าที่ออกแบบมาให้ใช้กับตัวเต้นมีหลายชนิดเช่น ผ้าใบธรรมดา และผ้าที่ถักมาด้วยเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ซึ่งจะมีลักษณะเหนียวเป็นพิเศษ ทนต่อแรงดึง บางชนิดสามารถทนต่อ UVได้ด้วย ร้านที่เหมาะสมในการใช้งานผ้าใบที่ทนแดด UV ได้แก่ร้านจำพวกร้านอาหารที่ให้คนนั่งรับประทาน เพราะในกรณีที่ใช้ผ้าใบแบบธรรมดาเต็นท์ขายของจะกักเก็บความร้อนให้อบอยู่ภายในเต็นท์ทำให้ผู้ที่อยู่ภายใต้ร่มเงานั้นเปรียบเสมือนอยู่ในเตาอบเลยทีเดียว

หลายๆคนคงเคยเดินตลาดรถไฟกันมาบ้างแล้ว สังเกตเห็นเต็นท์ขายของที่กางอยู่บริเวณตลาดรถไฟจะมีสีสันต์ต่างๆมากมาย เนื่องจากตัวผ้าใบที่เหมาะสมกับการใช้งานตามตลาดนั้นสามารถเลือกเป็นสีต่างๆได้โดยที่คุณสมบัติของตัวผ้าใบไม่ได้ต่ำลงไปด้วย ราคาของเต็นท์ขายของนั้นมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันโดยส่วนมากแล้วจะมีขายทั้งแบบชุดและแบบแยกขาย

โดยราคาจะเพิ่มไปตามขนาดของเต็นท์และประเภทของผ้าใบที่ใช้งานยิ่งขนาดของเต็นท์ใหญ่ก็จะมีราคาสูงกว่าเต็นท์ที่มีขนาดเล็ก เต็นท์ขายของ เต็นท์ผ้าใบบางชนิดถูกออกแบบมาให้พับเก็บได้โดยเหมาะสำหรับค้าขายสินค้าที่มีขนาดเล็กตามตลาดทั่วไป ข้อดีของเต็นท์ประเภทนี้คือสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดายเช่นในเวลาที่มีพายุเข้าต้องการหนีฝนจะสามารถพับเก็บได้อย่างรวดเร็วและมีขนาดที่ไม่แพง กรณีเรานำเต็นท์ขายของไปตั้งภายในตลาดนั้นควรกะขนาดของเต็นท์ให้ดีก่อนนำไปตั้งเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด