digital agency ต้องเปลี่ยนระบบทำงานหรือโครงสร้างหน่วยงานของตัวเองแล้ว การทำงานของ Agency ก็ต้องเปลี่ยนไป วิธีการของ Agency ในสมัยนี้ในหลายที่ยังคิดในรูปแบบโฆษณา หรือในรูปแบบของ Vendor หรือ Supplier นั้นจะกลายเป็นรูปแบบเก่าไปทันที วิธีการใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นคือ Agency จะติดอย่างนักการตลาดแทนที่จะเป็นนักโฆษณา หรือครีเอทีฟ เพียงอย่างเดียว ลูกค้าและแบรนด์มองหาบริษัทที่จะมาร่วมเป็น Partner ทางความคิด และทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นการที่ digital agency จะเปลี่ยนมาเป้น Partner หรือเป็น Marketing Consult นั้นต้องมีการวาง Psitioning ตัวเอง และการทำกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อให้เอาชนะใจลูกค้าได้ ซึ่งในเบื้องต้นมีวิธีการดังนี้
เรียนรู้และเข้าใจธุรกิจของลูกค้าตัวเอง
Partner นั้นรู้รอบด้านมากกว่าสิ่งที่ลูกค้านั้นรู้อยู่ในสิ่งที่รู้ในส่วนของตัวเอง อย่างเช่นเรื่อง Marketing การสร้างกลยุทธ์หรือยุทธวิธีที่สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทำการตลาด หรือทำการตอบโจทย์การตลาดให้ดีขึ้น หรือการขายของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ การเข้าไปคลุกคลีและทำงาน Proactive ร่วมกับลูกค้านั้นทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ และสร้างมูลค่าของตัวเองและบริษัทขึ้นมาได้ และสิ่งนี้คือสิ่งที่ Partner นั้นควรทำ ในการทำงานร่วมกัน
แคร์ในสิ่งที่ลูกค้าและแบรนด์แคร์
เมื่อคุณรู้ในเรื่องธุรกิจของลูกค้าอย่างถ่องแท้แล้ว การเข้าใจว่าบริษัทนั้นมีจุดมุ่งหมายหรือหลักการณ์ของบริษัทว่าอย่างไรนั้นคือสิ่งสำคัญ การเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมหรือจุดมุ่งหมายนั้น ๆ หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบริษัทลูกค้าเพื่อจุดมุ่งหมายดังกล่าวนั้นทำให้การทำงานร่วมกันและการมองเห็นภาพร่วมกันนั้นจะทำให้สามารถดำเนินงานด้วยกันได้ดีขึ้น
ปฏิสัมพันธ์อย่างจริงใจกับเจรจา
การบอกสิ่งที่ลูกค้าอยากฟังนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่คนที่จะเป็น Partner หรือ Consult ที่ดีนั้น ต้องบอกความจริงหรือสิ่งที่เป็นมากกว่าสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยิน แม้ว่าจะเสียลูกค้านั้นไปก็ตาม ถ้าคุณสามารถสร้างความความจริงใจในการแจ้งปัญหาและการให้คำปรึกษาเพื่อที่จะก้าวข้ามไปนั้น หรือเงื่อนไขที่ทำได้หรือทำไม่ได้ จะทำให้การทำงานนั้นมีการเชื่อใจและเชื่อฟังกันในคำปรึกษามากขึ้น และกรณีนี้หมายถึงการเจรจาความคาดหวังของผลลัพธ์ของงานที่อิงตามสิ่งที่ลูกค้าจ่ายและร้องขอมาได้ด้วย
ทำงานอย่างโปร่งใส
การทำงานที่ให้ลูกค้านั้นเห็นทุกขั้นตอน ไม่มีหมกเม็ดและการทำให้ลูกค้ารู้ว่าสิ่งที่จ่ายนั้นได้อะไรกลับไป การจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ นั้นคิดจากอะไร และรายละเอียดในการเก็บเงิน นั้นทำให้ลูกค้าเชื่อใจในงานที่ Agency ทำ ว่ามีการคิดเงินที่ไม่โกงลูกค้า หรือคิดเงินที่ทำเพื่อผลประโยชน์ที่เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายจริง ๆ ไม่ใช่คิดแต่จะเอาและเอาอย่างเดียว
ยอมรับทุกความผิดพลาด
เมื่อ agency ทำผิดพลาดจงยอมรับความผิดพลาดนั้น และทำทุกวิถึทางเพื่อแก้ไขปัญหานั้น เพื่อให้ลูกค้านั้นให้ความเชื่อใจและยอมรับกลับมา พร้อมกับนำเสนอเครื่องมือหรือวิธีการต่าง ๆ เพื่อจะไม่ให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นซ้ำ ถ้าลูกค้าทำอะไรผิดพลาด จงเข้าไปยอมรับความผิดพลาดนั้นและช่วยลูกค้าในการเผชิญหน้าความผิดพลาด ซึ่งสุดท้ายแล้วสิ่งที่คุณได้กลับนั้นคือใจชองลูกค้าเต็ม ๆ
หยุดอาการปากเสียในการพูดถึงลูกค้า
หลาย ๆ Agency นั้นชอบเอาเรื่องลูกค้าหรือแบรนด์ของลูกค้าไปเล่าเป็นเรื่องตลก หรือเรื่องการทำงานของลูกค้าไปพูดกับบุคคลที่ 3 ในฐานะคนทำงานที่เป็นมืออาชีพนั้น การทำงานที่ดีคือการปกป้องและโปรโมทแบรนด์หรือสินค้าของลูกค้า แม้ว่าลูกค้านั้นจะเป็นลูกค้าที่ทำงานยากลำบากก็ตาม Partner ที่จริงใจจะไม่เอาเรื่องการทำงานที่ยากลำบากของลูกค้า หรือ ลูกค้าที่เรื่องมากไปพูดออกในที่สาธารณะ
ทั้งหมดนี้คือมุมมองที่ต้องเปลี่ยนไปของบริษัท digital agency ต่อลูกค้าในอนาคต จากคนที่คอยรับคำสั่งว่าลูกค้าอยากได้อะไร ต้องเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนช่วยคิด เพื่อนช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าแทน การที่จะชนะใจใครสักคนได้ เรานั้นต้องให้ใจก่อน นอกจากนี้การที่ Agency พิสูจน์ตัวเองว่าสามารถรับทุกโจทย์ของลูกค้าได้ และการไขด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้โดยไม่ติดกรอบต่าง ๆ นั้นจะทำให้ลูกค้าหรือแบรนด์จะอยู่กับ Agency ตลอดไป และนั้นคือมุมมองของคนทำงาน Agency ที่ต้องเปลี่ยนไป